Pages

Saturday, May 5, 2012

เชิญชวนมาท่องเที่ยว อยุธยา...

หลังจากเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ของประเทศไทย...ทำให้จังหวัดพระนครศรีอยุธยาทั้งจังหวัดจมน้ำ...รวมถึงแหล่งโบราณสถานและวัดต่างๆในจังหวัดพระนครศรีอยุธยาได้รับความเสียหายอย่างมาก... ทั้งนี้ปัจจุบันก็ได้รับการฟื้นฟูโบราณสถานต่างๆ รวมถึงวัดและสถานที่ท่องเที่ยวกลับคืนมาสู่ภาวะปกติแล้ว...

จึงขอเชิญชวนนักท่องเที่ยวทุกท่านมาเที่ยวอยุธยากันเยอะๆนะครับ... แหล่งทำบุญมีมากมายเพื่อเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต ร่วมฟื้นฟูแหล่งประวัติศาสตร์ของเรา... เราจะได้มีมรดกโลกให้ลูกหลานเราได้ภูมิใจกันต่อไป...

สถานที่ที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยว ขอแนะนำคร่าวๆดังนี้นะครับ
1.วัดใหญ่ชัยมงคล  บนเจดีย์เป็นจุดที่ค้นพบพระคาถา พุทธชัยมงคลคาถา
2. วัดพนัญเชิง...ประดิษฐานองค์หลวงพ่อโต วัดนี้เป็นวัดที่ไม่ถูกน้ำท่วมในปี 2554
3. วัดท่าการ้อง...เป็นวัดที่จัดสรรห้องน้ำได้สวยงาม สะอาดมากครับ...และประดิษฐานหลวงพ่อยิ้มที่ศักดิ์สิทธิ์มา
4. ตลาดน้ำอโยธยา  แหล่งของกินมากมาย ของที่ระลึกเพียบครับ...
5. ตลาดโก้งโค้ง... ตลาดชื่อดัง ที่ได้รับความนิยม การที่ชื่อว่าโก้งโค้ง เพราะเวลาซื้อขอต้องโก้งโค้งซื้อเพราะของวางขายกับพื้น...
6. วัดมหาธาตุ เป็นวัดที่หลายๆท่านคงได้เห็นรูปถ่ายของเศียรพระพุทธรูปในต้นไม้นะครับ...
7. วัดราชบูรณะ...เป็นกรุสมบัติเก่าที่ทรางคุณค่ามาก...

ขอแนะนำเพียงเท่านี้ก่อนนะครับ...เยอะแยะไปหมด...แล้วผมจะมาเขียนบทความบรรยายแต่ละสถานที่ต่อไป ให้ได้อ่านกันครับ...ขอให้มีความสุขกันทุกท่านนะครับ....

เจดีย์วัดสามปลื้ม กลางวงเวียน เมืองอยุธยา



    ถ้าท่านได้เดินทางมาที่ พระนครศรีอยุธยา จะต้องได้พบกับเจดีย์โบราณกลางวงเวียนแน่นอน...
    บางท่านก็กล่าวว่าเป็นเจดีย์นักเลง เพราะเปรียบเปรยว่าอยู่กลางถนน
    ไม่เคยหลบใคร (ว่าไปนั่นเลยครับ)  นี่ก็น่าจะเป็นจุดแรกเลยครับที่นักเดินทางจะได้สัมผัส
    เมืองแห่งประวัติศาสตร์มรดกโลก


    เจดีย์ขนาดใหญ่องค์หนึ่งตั้งตระหง่านบนเกาะวงเวียนกลางถนน
    พิจารณาจากลักษณะของเจดีย์
    ที่มีสัดส่วนองค์ระฆังกลมยาวกว่า
    ส่วนฐานแปดเหลี่ยมและการก่ออิฐแบบไม่สอปูน
    จากช่องที่ผู้บูรณะได้เว้นเอาไว้
    ไม่ฉาบปูนทับไปจนหมด
    เจดีย์วัดสามปลื้มองค์นี้ก็เป็นเจดีย์องค์หนึ่ง
    ที่สร้างในสมัยศรีเทพนคร




    อันที่จริงแล้วเจดีย์องค์นี้เดิมก็คงจะอยู่ในวัด
    ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่ แต่เพราะว่า
    จนท.ของรัฐ และคนไทยขาดความสำนึกในเรื่องคุณค่าของศิลปะกรรม
    และโบราณคดี


    สมัยที่มีการสร้างถนนเข้ามาในพระนครศรีอยุธยา
    จึงได้ตัดผ่าเข้ามากลางพื้นที่ของวัดโบราณอย่างนี้
     ไม่ว่าจะเป็นวัดแม่นางปลื้ม วัดแม่ย่า ฯลฯ
    ล้วนถูกทำลายซากโบราณสถานต่าง ๆ ย่อยยับไปไม่น้อย 

Friday, May 4, 2012

ดอกไม้ประจำ จ.พระนครศรีอยุธยา

        วันนี้ก็ขอโพสแบบต่อเนื่องไปเลยนะครับ... ก็มาถึง ดอกไม้ประจำจังหวัดกันบ้าง... ก็คือ ดอกโสน... เป็นไม้ตระกูล LEGUMINOSAE ซึ่งเป็นไม้ล้มลุก (SHRUB) เนื้ออ่อนโตเร็ว ลำต้นอวบ ปลูกหรือขึ้นเองโดยทั่วไปตามริมฝั่งแม่น้ำ ออกดอกเป็นพวงสีเหลือง ใช้รับประทานเป็นอาหารได้ทั้งคาวและหวาน

               ตามประวัติศาสตร์กล่าวว่า เมื่อสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 (อู่ทอง) ทรงย้ายมาสร้างเมืองใหม่ที่ตำบลหนองโสนเมื่อปี พ.ศ. 1893 ซึ่งเป็นที่ที่มีต้นโสนขึ้นมาก เมื่อออกดอกจะมีสีเหลืองทอง...

ต้นไม้ประจำ จ.พระนครศรีอยุธยา

เช่นเคยครับ ก่อนเข้าไปเที่ยวในอยุธยาก็ต้องเอาเกร็ดความรู้ไปก่อน... ไม่ว่าเราจะไปท่องเที่ยวแห่งหนใด เราก็ควรที่จะมีความรู้เกี่ยวกับสถานที่แห่งนั้นบ้างจะเป็นการดี... และจะเป็นการได้ซึมซับความเป็นไทยของเราได้ดียิ่งขึ้น...

วันนี้ก็ขอเสนอต้นไม้ประจำจังหวัดกันก่อน...ก็คือ ต้นหมัน (ไม้ตระกูล BORAGINACEAE) เป็นไม้ยืนต้น ขนาดปานกลาง ลำต้นทรงกระบอก สูงประมาณ 60 ฟุต เนื้อไม้สีเทาปนน้ำตาล แข็งปานกลาง มีรอยแตกยาวไปตามลำต้น ใบมีลักษณะรูปไข่ โคนใบคล้ายรูปหัวใจยาวประมาณ 5 นิ้ว ออกดอกสีขาว ผลเล็กเป็นพวง...สุกจะมีสีชมพู ภายในเป็นเนื้อใสและเหนียว

ตามประวัติศาสตร์กล่าวว่า เมื่อสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 (อู่ทอง) ทรงย้ายมาสร้างเมืองใหม่ที่ตำบลหนองโสน ได้ขุดพบสังข์ทักษิณาวัตร 1 ขอน อยู่ใต้ต้นหมัน... ทางการจึงถือเอาต้นหมันเป็นต้นไม้ประจำจังหวัดพระนครศรีอยุธยา...

Tuesday, May 1, 2012

อยุธยานครประวัติศาสตร์ Introduction

      วันนี้ก็ขอเอา link จาก youtube มาให้ดูกันนะครับ เป็นแบบเบื้องต้น สั้นๆแค่ 3 นาทีกว่าๆ ... แม้จะสั้น แต่ก็อาจจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เรารักเมืองไทยมากยิ่งขึ้น...เชิญชมเลยนะครับ....

ตราประจำจังหวัดและธงประจำจังหวัดพระนครศรีอยุธยา

                 ปีพุทธศักราช 1893 สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 (อู่ทอง) ทรงย้ายพระนครมาสร้างเมืองใหม่ ทรงเห็นว่าตำบลหนองโสนอยู่ในชัยภูมิที่เหมาะสม เพราะมีน้ำล้อมรอบจึงทรงกะเขตปักราชวัตรฉัตรธง ตั้งศาลเพียงตา พ่อพราหมณ์ได้ฤกษ์กระทำพิธีกลบบาตสุมเพลิง (ชื่อพิธีอย่างหนึ่งทำเพื่อแก้เสนียด) แล้วให้พนักงานขุดดินทั่วบริเวณเพื่อสร้างราชวัง เมื่อขุดมาได้ถึงบริเวณต้นหมัน พนักงานพบสังข์ทักษิณาวัตรสีขาวบริสุทธิ์ 1 ขอน พระเจ้าอู่ทองทรงโสมนัสในศุภนิมิตรนั้นยิ่งนัก จึงโปรดให้สร้างปราสาทน้อยขึ้นเป็นที่ประดิษฐานสังข์ดังกล่าว ทางราชการจึงถือว่า "สังข์" ซึ่งประดิษฐานบนพานทอง ภายในปราสาทใต้ต้นหมัน เป็นตราประจำจังหวัดพระนครศรีอยุธยา




ธงประจำจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นธงสี่เหลี่ยมผืนผ้าแบ่งเป็น 3 แถบเท่าๆกัน โดยมีแถบสีฟ้าอยู่ตรงกลาง แถบสีน้ำเงินขนาบสีฟ้าอยู่ทั้ง 2 ข้าง ตรงกลางแถบสีฟ้ามีรูปปราสาทสังข์ทักษิณาวัตรประดิษฐานบนพานทองอยู่ใต้ต้นหมัน ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของจังหวัดใต้ปราสาทสังข์คำว่า "อยุธยา"

Sunday, April 29, 2012

กำเนิดอยุธยา...

                   ก่อนหน้าก่อตั้งกรุงศรีอยุธยา จะมีเมืองสำคัญอยู่ 2 เมืองคือ...เมืองละโว้หรือลพบุรีจะตั้งอยู่บนฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยา...และเมืองสุพรรณภูมิหรือสุพรรณบุรีตั้งอยู่ฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยา...
                   เจ้านาย 2 เมืองมีความสัมพันธ์ทางเครีอญาติ ประกอบกับประชากรเริ่มเพิ่มมากขึ้น และการค้าขายทางทะเลก็ขยายตัวมาก จึงได้สถาปนาเมืองใหม่ขึ้นมา...ซึ่งอยู่ใกล้ทะเลมากกว่าเดิม มีเส้นทางคมนาคมทางน้ำสายต่างๆ ทำให้การติดต่อสะดวกมากขึ้น จนกลายเป็นเมืองท่าขนาดใหญ่ และเป็นศูนย์กลางอำนาจทางการเมือง มีชื่อว่า "กรุงศรีอยุธยา" โดยพงศาวดารได้บันทึกไว้ว่า พระเจ้าอู่ทองเป็นผู้สถาปนาเมืองแห่งนี้ขึ้นเมื่อปี 1893...